สมัยนี้ใครๆก็เดินทางระยะไกลกันโดยใช้เครื่องบินโดยสารมากขึ้น เนื่องจากจะประหยัดเวลาไปมากแล้ว ค่าใช้จ่ายก็ไม่สูงมากเหมือนแต่ก่อน สำหรับคนที่กำลังควบคุมอาหารไม่ว่าจะเป็นพลังงาน ไขมัน น้ำตาล หรือเกลือโซเดียม คงมีข้อกังวลใจไม่น้อยว่าเราควรจะเลือกรับประทานอาหารอย่างไรบนเครื่องบิน ต้องพกอาหารอะไรขึ้นไปรับประทานเสริมหรือไม่ หากเที่ยวบินใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงคงยอมรับกันได้ แต่หากเที่ยวบินยาวนานหลายชั่วโมง  การหันมาให้ความสำคัญกับอาหารและเครื่องดื่มต่างๆบนเครื่องบิน ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน

        อาหารสายการบินพาณิชย์ได้ถูกพัฒนาให้มีระบบการจัดบริการอาหารและเครื่องดื่มแก่ผู้โดยสารมาตั้งแต่ปี คศ. 1919 เริ่มต้นที่แซนวิชและกาแฟ หลังจากนั้นค่อยพัฒนาต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จัดเสิร์ฟเป็นอาหารชุดสำรับ ในปัจจุบัน ชุดอาหารบนเครื่องบินส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยจานสลัดหรือจานเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก ขนมหวานหรือผลไม้ และเครื่องดื่มต่างๆ รูปแบบเมนูอาหารจะกำหนดประเภทของมื้อตามเวลาของเที่ยวบิน

        นอกเหนือจากอาหารชุดปกติบนเครื่องบินแล้ว แต่ละสายการบินก็จะมีอาหารพิเศษ (Special Meal) ไว้ให้บริการผู้โดยสารเช่นกัน โดยจะพยายามจัดให้ตรงกับความต้องการเฉพาะส่วนบุคคล ได้แก่

1. อาหารทางศาสนา (Religious Meals) จะมีควบคุมการผลิตอาหารให้ตรงกับหลักศาสนานั้นๆ เช่น อาหารฮาลาลของชาวมุสลิม อาหารโคเชอร์ของผู้โดยสารที่นับถือศาสนายูดายหรือยิว

2. อาหารกำหนดโภชนาการ (Dietary Meals) มีไว้บริการผู้โดยสารที่ต้องการอาหารเฉพาะโรค หรือผู้โดยสารที่ต้องการจำกัดปริมาณสารอาหารเฉพาะ เพื่อการควบคุมน้ำหนักหรือน้ำตาลในเลือด หรือผู้โดยสารที่แพ้อาหารต่างๆ เช่น อาหารจืดอ่อน อาหารเบาหวาน อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ อาหารปลอดกลูเตน(สำหรับผู้ป่วยที่แพ้โปรตีนกลูเตน) อาหารโปรตีนต่ำ(สำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง) อาหารโซเดียมต่ำ อาหารพลังงานต่ำ(สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก) อาหารคอเลสเตอรอลต่ำ ไขมันต่ำ (สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับไขมันในเลือด) อาหารปลอดแลคโตส(สำหรับผู้ที่แพ้น้ำตาลในนม) เป็นต้น

3. อาหารมังสวิรัติ (Vegetarian Meals) สำหรับผู้โดยสารที่งดการรับประทานอาหารเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ซึ่งแต่ละสายการบินอาจมีการบริการจัดอาหารมังสวิรัติตามระดับความเคร่ง ของผู้โดยสารแต่ละคน เช่น อาหารมังสวิรัติแบบยอมรับนมและไข่ อาหารมังสวิรัติแบบเคร่งครัด อาหารมังสวิรัติแบบพืชสดผลไม้สด เป็นต้น

4. อาหารอื่นๆ (Other Meals) ตามความต้องการของผู้โดยสาร เช่น อาหารทารก/เด็กอ่อน อาหารทะเล อาหารญี่ปุ่น เป็นต้น

        อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกของประเภทอาหารบนสายการบินขึ้นอยู่กับสายการบินนั้นๆ ว่าจะมีให้เลือกมากน้อยเพียงใด และการสั่งอาหารพิเศษเหล่านี้ต้องสั่งล่วงหน้าก่อน 48 ชั่วโมงก่อนเวลาเที่ยวบิน และส่วนใหญ่การขออาหารพิเศษ ผู้โดยสารจะไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ควรตรวจสอบก่อนล่วงหน้าให้เป็นไปตามระเบียบข้อกำหนดของแต่ละสายการบินด้วย  ดังนั้นแล้ว หากคุณกำลังควบคุมน้ำหนักฟิตร่างกาย กำลังพยายามลดระดับค่าไขมันในเลือด และดูแลอาหารการกินอยู่ ก็อย่าได้กังวลว่าบนเครื่องบินจะไม่มีอาหารที่ตรงตามความต้องการของคุณ

        อย่าลืมนะคะ! ควรตรวจสอบและปรึกษาลักษณะอาหารที่คุณต้องการกับสายการบินของคุณ ก่อนการเดินทางตั้งแต่เนิ่นๆ และคุณจะมีควาสุขกายสุขใจตลอดการเดินทางเลยค่ะ

เอกสารอ้างอิง

ไพรัช ขจรวัชรา (2548) เรื่อง อาหารสายการบิน จาก หนังสืออาหารมิติแห่งศาสตร์และศิลป์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย:กรุงเทพฯ