ความวิตกกังวล หรือที่คนรุ่นใหม่เรียกกันติดปากว่า “อาการนอยด์” (มาจากภาษาอังกฤษว่า paranoid) เป็นอาการที่เกิดจากอารมณ์ แต่ส่งผลไปถึงร่างกายได้ เช่น...

• รู้สึกใจสั่น ใจเต้นแรงและเร็วผิดปกติ ... ปกติอัตราการเต้นของหัวใจคนเราจะอยู่ที่ประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที ถ้าเร็วกว่านี้หัวใจจะทำงานหนักกว่าที่ควรจะเป็น
• หายใจไม่สุด ต้องถอนหายใจบ่อยๆ ... ทำให้กล้ามเนื้อและอวัยวะทุกส่วนไม่ได้รับออกซิเจนอย่างเพียง พอ
• เกร็งกล้ามเนื้อโดยไม่รู้ตัว ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า หมดแรง
• ชาปลายมือปลายเท้าหรือใบหน้า เกิดกับคนที่ต้องเจอเรื่องเครียดกะทันหัน
• ปวดศีรษะ อาจเป็นเพราะความดันโลหิตสูงผิดปกติ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะเส้นเลือดในสมองแตก
• อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ทำให้การดูดซึมและการย่อยอาหารไม่ดีเท่าที่ควร
• นอนไม่หลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ ซ้ำเติมอวัยวะให้เสื่อมลงอย่างรวดเร็ว

...จากอาการดังกล่าวจะเห็นว่าความวิตกกังวลไม่ได้ทำร้ายแค่อารมณ์แต่ยังทำร้ายร่างกายได้สาหัสไม่แพ้กันโดยเฉพาะที่หัวใจ

ส่วนทางแก้ ก่อนอื่นต้องรู้ว่าความวิตกกังวลของเราเป็นแบบใด ความวิตกกังวลมี 2 แบบ คือ ความวิตกกังวลแบบปกติและแบบแพนิค ถ้าเป็นความวิตกกังวลแบบปกติ ก็ต้องมีสติรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง เพื่อจะได้ฝึกปล่อยวาง ลดความยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งต่างๆ จะต้องเป็นไปตามที่เราคาดหวัง ดูแลตัวเองในปัจจุบันให้ดีที่สุด

ถ้าเป็นความวิตกกังวลแบบแพนิค ซึ่งจะมีอาการหนักกว่าข้างต้น คือ เจ็บบริเวณหน้าอก อ่อนเพลีย คลื่นไส้ รู้สึกมึนงงเหมือนตกอยู่ในความฝัน กลัวทุกสิ่งอย่าง รู้สึกสังหรณ์ว่ามีบางอย่างที่น่ากลัวกำลังเกิดขึ้นตลอดเวลา ควบคุมตนเองไม่ได้หรือแสดงสิ่งที่น่าอายออกไป ควรไปพบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาด้วยยาร่วมกับการดูแลทางด้านจิตใจ

นอกจากนี้ก็ลองหันไปหากิจกรรมสร้างสรรค์ที่จะช่วยให้จิตพักการหมก มุ่นถึงอดีตที่ผ่านไปแล้วหรืออนาคตที่ยังมาไม่ถึง เช่น การออกกำลังกายที่ต้องใช้สมาธิแบบโยคะ ไท้เก๊ก หรือเล่นกีฬาที่ต้องใช้สมาธิ จะช่วยให้คลายเครียด และเสริมสร้างสุขภาพกายไปพร้อมกัน